All Categories
banner

บล็อก

หน้าแรก >  บล็อก

วิธีเปรียบเทียบเซ็นเซอร์ Omnivision กับแบรนด์อื่นๆ

Aug 26, 2025

วิธีเปรียบเทียบเซ็นเซอร์ Omnivision กับแบรนด์อื่น

เซ็นเซอร์ Omnivision มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในอุปกรณ์ถ่ายภาพข้ามอุตสาหกรรม ตั้งแต่สมาร์ทโฟนและกล้องวงจรปิดไปจนถึงระบบยานยนต์และอุปกรณ์การแพทย์ โดยฐานะที่เป็นผู้ผลิตเซ็นเซอร์ภาพชั้นนำ Omnivision แข่งขันกับแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ เช่น Sony, Samsung, ON Semiconductor และ STMicroelectronics การเลือกเซ็นเซอร์ที่เหมาะสมจำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบอย่างรอบคอบ เนื่องจากแต่ละแบรนด์มีจุดแข็งที่แตกต่างกัน ซึ่งเหมาะกับการใช้งานเฉพาะทาง คู่มือนี้อธิบายวิธีการเปรียบเทียบ เซ็นเซอร์ Omnivision กับแบรนด์อื่น โดยครอบคลุมปัจจัยสำคัญ เช่น ประสิทธิภาพ คุณสมบัติ ความเข้ากันได้ และต้นทุน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเซ็นเซอร์ Omnivision และตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์

Omnivision ได้สร้างชื่อเสียงจากการผลิตเซ็นเซอร์ภาพที่มีคุณภาพสูงและคุ้มค่าตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1995 เซ็นเซอร์ของบริษัทมีชื่อเสียงในการให้สมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการประหยัดต้นทุน ทำให้ได้รับความนิยมในตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ตลาดยานยนต์ และตลาดอุตสาหกรรม Omnivision Sensors มีจุดเด่นในด้านต่างๆ เช่น การถ่ายภาพในที่แสงน้อย ดีไซน์ที่กะทัดรัด และการผสานรวมกับฟีเจอร์ขั้นสูง (เช่น HDR, กล้องอินฟราเรดสำหรับกลางคืน) พวกเขาให้บริการทั้งการใช้งานทั่วไปและเฉพาะทาง ตั้งแต่สมาร์ทโฟนราคาประหยัดไปจนถึงกล้องรถยนต์ระดับไฮเอนด์

เพื่อเปรียบเทียบ Omnivision Sensors อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือคุณต้องระบุความต้องการของคุณก่อน: อุปกรณ์ที่คุณกำลังพัฒนามีอะไรบ้าง? ฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพใดที่สำคัญ (เช่น ความละเอียด การถ่ายภาพในที่แสงน้อย)? งบประมาณของคุณอยู่ที่ระดับใด? การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยนำทางการเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่นๆ

ปัจจัยสำคัญในการเปรียบเทียบ Omnivision Sensors กับแบรนด์อื่นๆ

เมื่อเปรียบเทียบเซ็นเซอร์ของ Omnivision กับคู่แข่ง ให้เน้นปัจจัยสำคัญเหล่านี้ เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์และความพึงพอใจของผู้ใช้:

1. ความละเอียดและขนาดพิกเซล

ความละเอียด (วัดเป็นเมกะพิกเซล หรือ MP) และขนาดพิกเซล (วัดเป็นไมโครเมตร หรือ μm) จะกำหนดว่าเซ็นเซอร์สามารถเก็บรายละเอียดได้มากเพียงใด พิกเซลที่ใหญ่กว่าโดยทั่วไปมีประสิทธิภาพดีกว่าในที่แสงน้อย เนื่องจากสามารถดูดซับแสงได้มากขึ้น

  • เซ็นเซอร์ Omnivision : Omnivision มีเซ็นเซอร์ให้เลือกหลากหลายระดับความละเอียด ตั้งแต่ 2MP (สำหรับกล้องพื้นฐาน) ไปจนถึง 200MP (สำหรับสมาร์ทโฟนระดับสูง) โดยขนาดพิกเซลของพวกเขามักอยู่ในช่วงตั้งแต่ 0.56μm (ในเซ็นเซอร์ขนาดเล็กที่ความละเอียดสูง) ไปจนถึง 3.0μm (ในรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในที่แสงน้อย) ตัวอย่างเช่น เซ็นเซอร์ Omnivision OV50A เป็นเซ็นเซอร์ 50MP ที่มีขนาดพิกเซล 1.0μm ซึ่งให้ความสมดุลระหว่างการเก็บรายละเอียดและความสามารถในการใช้งานในที่แสงน้อย
  • คู่แข่งขัน เซ็นเซอร์ Exmor RS ของ Sony มักมีพิกเซลขนาดใหญ่สำหรับสมาร์ทโฟน (เช่น 1.4μm ในรุ่น 50MP) ในขณะที่เซ็นเซอร์ ISOCELL ของ Samsung มุ่งเน้นไปที่ความละเอียดสูงด้วยเทคโนโลยี pixel binning (การรวมพิกเซลเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในสภาพแสงน้อย) ON Semiconductor ให้ความสำคัญกับพิกเซลขนาดใหญ่ (2.0μm+) สำหรับเซ็นเซอร์อุตสาหกรรมและยานยนต์ ซึ่งมีความสำคัญในสภาพแสงน้อย

เคล็ดลับการเปรียบเทียบ : สำหรับการใช้งานในที่แสงน้อย (เช่น กล้องวงจรปิด) ควรให้ความสำคัญกับพิกเซลขนาดใหญ่มากกว่าความละเอียดสูงสุด เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.5 นิ้วของ Omnivision ที่มีพิกเซล 1.0μm+ มักจะแข่งขันได้ดีเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันของ Sony ในอุปกรณ์ระดับกลาง

2. ประสิทธิภาพในที่แสงน้อย

ประสิทธิภาพในที่แสงน้อยมีความสำคัญอย่างมากสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย เช่น กล้องวงจรปิด ระบบมองเห็นยามค่ำคืนในรถยนต์ และกล้องสมาร์ทโฟน การวัดประสิทธิภาพทำได้จากเกณฑ์ต่างๆ เช่น อัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน (SNR) และช่วงไดนามิก

  • เซ็นเซอร์ Omnivision : Omnivision ใช้เทคโนโลยีเช่น Nyxel® near-infrared (NIR) enhancement และ pixel binning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ตัวอย่างเช่น เซ็นเซอร์ OV2710 ใช้พิกเซลขนาด 3.0μm ร่วมกับเทคโนโลยี Nyxel ในการจับภาพที่ชัดเจนในที่มืดเกือบทั้งหมด ทำให้เป็นที่นิยมในกล้องวงจรปิด
  • คู่แข่งขัน : เซ็นเซอร์ Starvis ของ Sony เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องประสิทธิภาพการถ่ายภาพในที่แสงน้อย มีค่า SNR สูงและพิกเซลขนาดใหญ่ (เช่น IMX415 ที่มีพิกเซลขนาด 2.0μm) เซ็นเซอร์ AR0234 ของ ON Semiconductor ใช้เทคโนโลยี HDR และพิกเซลขนาดใหญ่เพื่อประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในสถานการณ์แสงน้อยสำหรับรถยนต์

เคล็ดลับการเปรียบเทียบ : ทดสอบค่า SNR ที่ระดับแสงต่ำ (เช่น 10 lux) เซ็นเซอร์ของ Omnivision ที่มีเทคโนโลยี Nyxel มักมีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งที่มีราคาใกล้เคียงกันในด้านความไวต่อแสง NIR ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการใช้งานระบบภาพความคืน

3. ช่วงไดนามิกและประสิทธิภาพ HDR

ช่วงไดนามิก (DR) วัดความสามารถของเซ็นเซอร์ในการจับรายละเอียดในพื้นที่ที่มีแสงสว่างและมืดของฉาก HDR (High dynamic range) ช่วยขยายช่วงนี้ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากสำหรับกล้องภายนอก ระบบในรถยนต์ และสมาร์ทโฟน

  • เซ็นเซอร์ Omnivision : Omnivision ใช้โหมด HDR เช่น staggered HDR และ multi-exposure HDR ในเซ็นเซอร์เช่น OV13850 ซึ่งให้ค่า dynamic range สูงสุดถึง 140dB สิ่งนี้ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในกล้องรถยนต์ ซึ่งมีสภาพที่มีแสงแดดจัดและพื้นที่ร่มอยู่ร่วมกัน
  • คู่แข่งขัน : เซ็นเซอร์ Exmor ของ Sony ใช้ dual-pixel HDR และการประมวลผลแบบ multi-frame เพื่อให้ได้ dynamic range สูงสุดถึง 150dB เซ็นเซอร์ ISOCELL Bright ของ Samsung มีการรองรับ HDR10+ เพื่อให้สีสันสดใสในสภาพที่มีความเปรียบต่างสูง

微信图片_20250510112823.png

เคล็ดลับการเปรียบเทียบ : สำหรับการใช้งานในรถยนต์หรือกลางแจ้ง ควรเลือกเซ็นเซอร์ที่มีค่า dynamic range เกิน 120dB เซ็นเซอร์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของ Omnivision (เช่น OX08B40) มีค่า dynamic range เทียบเท่ากับของ Sony ในแอปพลิเคชันระดับกลาง แต่ในราคาที่ต่ำกว่า

4. การบริโภคพลังงาน

ประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมีความสำคัญมากสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ เช่น สมาร์ทโฟน อุปกรณ์สวมใส่ และโดรน เซ็นเซอร์ที่ใช้พลังงานน้อยจะช่วยเพิ่มระยะเวลาการใช้งานของอุปกรณ์

  • เซ็นเซอร์ Omnivision : Omnivision ให้ความสำคัญกับการออกแบบเซ็นเซอร์ที่ใช้พลังงานต่ำ โดยมีเซ็นเซอร์เช่น OV7251 ใช้พลังงานต่ำกว่า 50mW ในโหมดทำงาน ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็กอย่างเครื่องติดตามการออกกำลังกายและกล้อง IoT
  • คู่แข่งขัน : เซ็นเซอร์ประหยัดพลังงานต่ำของโซนี่ (เช่น IMX219) ได้รับความนิยมในกล้อง Raspberry Pi แต่อาจใช้พลังงานมากกว่าโมเดลระดับเริ่มต้นของ Omnivision อยู่เล็กน้อย เซ็นเซอร์ของ STMicroelectronics มักเน้นการประหยัดพลังงานขั้นสูงสำหรับอุปกรณ์สวมใส่

เคล็ดลับการเปรียบเทียบ : ตรวจสอบค่าพลังงานในโหมดสำรองและโหมดทำงาน โมเดลเซ็นเซอร์ระดับเริ่มต้นของ Omnivision มักมีการใช้พลังงานต่ำกว่าเซ็นเซอร์ของ Sony หรือ Samsung ประมาณ 10–15% ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

5. การผสานรวมและชุดคุณสมบัติ

เซ็นเซอร์รุ่นใหม่มักมีคุณสมบัติที่ผสานรวมมาให้แล้ว เช่น การโฟกัสอัตโนมัติ (AF), การกันสั่นภาพ และการประมวลผลแบบ AI ซึ่งช่วยลดความจำเป็นของชิ้นส่วนภายนอก

  • เซ็นเซอร์ Omnivision : Omnivision ได้ผสานคุณสมบัติเช่น การโฟกัสด้วยระบบตรวจจับเฟส (PDAF) และระบบกันสั่นภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EIS) เข้าไว้ในเซ็นเซอร์ เช่น OV64B ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ 64MP สำหรับสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ที่เหมาะกับ AI (เช่น OV50C) ที่มีการประมวลผลบนชิปสำหรับการตรวจจับวัตถุ
  • คู่แข่งขัน : เซ็นเซอร์ของ Sony มักมีระบบโฟกัสอัตโนมัติขั้นสูง (เช่น ระบบ Dual-pixel AF ใน IMX866) และการเร่งความเร็วด้วย AI เพื่อการถ่ายภาพเชิงคำนวณ Samsung’s ISOCELL GN2 ใช้การถ่ายวิดีโอแบบ 8K และระบบ Laser AF สำหรับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม

เคล็ดลับการเปรียบเทียบ : สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการฟีเจอร์ในตัว ให้เปรียบเทียบระดับการผสานรวม เซ็นเซอร์ระดับกลางของ Omnivision ให้ความสมดุลระหว่างคุณสมบัติและราคา ในขณะที่ Sony/Samsung เป็นผู้นำด้านตัวเลือกที่มีคุณสมบัติครบครันระดับพรีเมียม

6. ความเข้ากันได้ของแอปพลิเคชัน

อุตสาหกรรมต่างๆ มีความต้องการที่แตกต่างกัน: เซ็นเซอร์สำหรับยานยนต์ต้องการความทนทาน เซ็นเซอร์ทางการแพทย์ต้องการความแม่นยำสูง และสมาร์ทโฟนต้องการการออกแบบที่กะทัดรัด

  • เซ็นเซอร์ Omnivision :
    • อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค : Omnivision ครองตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางด้วยเซ็นเซอร์อย่าง OV50A (50MP) และ OV16A1Q (16MP)
    • ยานยนต์ : เซ็นเซอร์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของพวกเขา (เช่น OX03C10) ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ISO 26262 และรองรับคุณสมบัติ ADAS เช่น การตรวจจับเลน
    • ความปลอดภัย : เซ็นเซอร์อย่าง OV2710 ที่มีเทคโนโลยี Nyxel ถูกใช้อย่างแพร่หลายในกล้องวงจรปิด
  • คู่แข่งขัน :
    • Sony เป็นผู้นำในสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม (IMX989) และอุตสาหกรรมยานยนต์ (IMX490)
    • ON Semiconductor มุ่งเน้นที่เซ็นเซอร์อุตสาหกรรมและสำหรับยานยนต์ (AR0820) ที่มีการออกแบบแข็งแรงทนทาน
    • Samsung โดดเด่นด้านเซ็นเซอร์สมาร์ทโฟนความละเอียดสูง (ISOCELL HP3)

เคล็ดลับการเปรียบเทียบ : จับคู่เซ็นเซอร์ให้เหมาะกับอุตสาหกรรมของคุณ Omnivision เสนอตัวเลือกที่แข็งแกร่งในด้านยานยนต์และอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคระดับกลาง ขณะที่ Sony/Samsung เป็นผู้นำในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคระดับพรีเมียม

7. ความน่าเชื่อถือและความทนทาน

สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม ยานยนต์ และกลางแจ้ง เซ็นเซอร์ต้องสามารถทนต่ออุณหภูมิสุดขั้ว การสั่นสะเทือน และความชื้นได้

  • เซ็นเซอร์ Omnivision : เซ็นเซอร์ยานยนต์ของ Omnivision (เช่น OX08B40) ทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิ -40°C ถึง 105°C และเป็นไปตามมาตรฐาน AEC-Q100 สำหรับอุตสาหกรรม เซ็นเซอร์อุตสาหกรรมของบริษัทมีความทนทานต่อฝุ่นและน้ำ (ได้รับการจัดอันดับ IP67)
  • คู่แข่งขัน : เซ็นเซอร์ของ ON Semiconductor มีชื่อเสียงด้านความทนทานในอุตสาหกรรม (เช่น AR0144CS ทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิ -40°C ถึง 85°C) เซ็นเซอร์ยานยนต์ของ Sony ก็เป็นไปตามมาตรฐาน AEC-Q100 เช่นกัน แต่อาจมีราคาสูงกว่า

เคล็ดลับการเปรียบเทียบ : ตรวจสอบการรับรองอุตสาหกรรม (AEC-Q100 สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์, การจัดอันดับ IP สำหรับการใช้งานกลางแจ้ง) เซ็นเซอร์ที่ได้รับการรับรองจาก Omnivision มีความทนทานเทียบเท่ากับคู่แข่งในราคาที่ต่ำกว่า

8. ต้นทุนและมูลค่า

ต้นทุนมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ที่ผลิตจำนวนมาก Omnivision มักได้รับการชื่นชมว่าให้มูลค่าที่ดี แต่คู่แข่งอาจสามารถชี้แจงราคาที่สูงกว่าด้วยฟีเจอร์ระดับพรีเมียม

  • เซ็นเซอร์ Omnivision : โดยทั่วไปราคาจะถูกกว่า Sony หรือ Samsung ประมาณ 10–20% ในสเปคที่เทียบเท่ากัน ตัวอย่างเช่น เซ็นเซอร์ 50MP ของ Omnivision มีราคาถูกกว่าเซ็นเซอร์ Sony Exmor ที่ใกล้เคียงกัน ทำให้เหมาะสำหรับอุปกรณ์ระดับเริ่มต้นถึงระดับกลาง
  • คู่แข่งขัน : Sony และ Samsung ตั้งราคาสูงสำหรับเซ็นเซอร์ระดับท็อป (เช่น รุ่น 200MP) โดยมุ่งเป้าไปที่สมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป เซ็นเซอร์อุตสาหกรรมของ ON Semiconductor มีราคาสูงกว่า แต่ให้ความทนทานเฉพาะทาง

เคล็ดลับการเปรียบเทียบ : คำนวณมูลค่ารวม ไม่ใช่แค่ต้นทุนเริ่มต้น ราคาที่ต่ำกว่าของ Omnivision มักชดเชยช่องว่างด้านประสิทธิภาพเล็กน้อยในแอปพลิเคชันที่ไม่ใช่ระดับพรีเมียม

ตัวอย่างการเปรียบเทียบเซ็นเซอร์ Omnivision กับคู่แข่ง

ตัวอย่างที่ 1: เซ็นเซอร์กล้องสมาร์ทโฟน

  • Omnivision OV50A (50MP) : พิกเซลขนาด 1.0μm, HDR, วิดีโอ 4K, ประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง
  • Sony IMX866 (50MP) : พิกเซลขนาด 1.4μm, ประสิทธิภาพในที่แสงน้อยดีกว่า, โฟกัสด้วยระบบ Dual-pixel AF ใช้ในสมาร์ทโฟนเรือธง
  • การเปรียบเทียบ : OV50A ให้ประสิทธิภาพ 80% ของ IMX866 ในราคา 70% ของต้นทุน ทำให้เหมาะกับแบรนด์ที่คำนึงถึงงบประมาณ

ตัวอย่างที่ 2: เซ็นเซอร์ ADAS ในรถยนต์

  • Omnivision OX08B40 : ความละเอียด 8MP, Dynamic Range 140dB, ได้รับการรับรอง AEC-Q100, อุณหภูมิการใช้งาน -40°C ถึง 105°C
  • ON Semiconductor AR0234 : 2MP, 120dB DR, ช่วงอุณหภูมิที่ใช้งานใกล้เคียงกัน, ความละเอียดต่ำกว่า
  • การเปรียบเทียบ : OX08B40 มีความละเอียดและช่วงไดนามิกที่สูงกว่า เหมาะสำหรับระบบ ADAS ขั้นสูง รองรับยานยนต์รุ่นใหม่

ตัวอย่างที่ 3: กล้องวงจรปิด

  • ออมนิวิชั่น ov2710 : 2MP, พิกเซลขนาด 3.0μm, เทคโนโลยี Nyxel NIR, ประสิทธิภาพในที่แสงน้อยยอดเยี่ยม
  • โซนี่ IMX415 : 2MP, พิกเซลขนาด 2.0μm, เทคโนโลยี Starvis สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อย, อัตราสัญญาณต่อเสียงรบกวน (SNR) สูงกว่าเล็กน้อย
  • การเปรียบเทียบ : OV2710 มีความไวต่อแสง NIR สูงกว่า IMX415 ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในกล้องวงจรปิดสำหรับการมองเห็นในเวลากลางคืน

คำถามที่พบบ่อย

เซ็นเซอร์ Omnivision เหมาะสำหรับการใช้งานใดบ้าง?

เซ็นเซอร์ Omnivision โดดเด่นในสมาร์ทโฟนระดับกลาง, ระบบ ADAS ในรถยนต์, กล้องวงจรปิด และอุปกรณ์ IoT การผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพ, ต้นทุน, และคุณสมบัติ ทำให้มันเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคและอุตสาหกรรมที่ผลิตจำนวนมาก

เซ็นเซอร์ Omnivision เปรียบเทียบกับ Sony ในการใช้งานในที่แสงน้อยอย่างไร?

เซ็นเซอร์ Starvis ของ Sony โดยทั่วไปมีค่า SNR ในช่วงแสงที่ตามองเห็นดีกว่าเล็กน้อย แต่เซ็นเซอร์ของ Omnivision ที่ใช้เทคโนโลยี Nyxel (เช่น OV2710) มีประสิทธิภาพด้านความไวต่อแสงอินฟราเรดใกล้ (NIR) ดีกว่า Sony ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานด้านการมองเห็นในที่มืดและระบบความปลอดภัย

เซ็นเซอร์ของ Omnivision ถูกกว่าเซ็นเซอร์ของ Samsung หรือไม่

ใช่ เซ็นเซอร์ Omnivision โดยทั่วไปมีราคาถูกกว่าเซ็นเซอร์ ISOCELL ของ Samsung ประมาณ 10–20% สำหรับรุ่นที่มีสเปคใกล้เคียงกัน เซ็นเซอร์ระดับพรีเมียมของ Samsung (เช่น รุ่น 200MP) ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในอุปกรณ์ระดับเรือธง จึงมีราคาสูงกว่า

เซ็นเซอร์ของ Omnivision รองรับ HDR สำหรับการใช้งานในรถยนต์หรือไม่

ใช่ เซ็นเซอร์สำหรับรถยนต์ของ Omnivision (เช่น OX08B40) มีฟีเจอร์ HDR ที่มีไดนามิกเรนจ์สูงถึง 140dB ซึ่งเหมาะสำหรับการจับรายละเอียดในพื้นที่ที่มีแสงสว่างและมืดในเวลาเดียวกัน ซึ่งสำคัญมากสำหรับระบบ ADAS และรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

ฉันจะทดสอบประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ Omnivision เทียบกับคู่แข่งได้อย่างไร

เปรียบเทียบข้อมูลทางเทคนิค (ความละเอียด ขนาดพิกเซล อัตราสัญญาณต่อเสียงรบกวน อัตราส่วนไดนามิก) จากแผ่นข้อมูลจำเพาะ สำหรับการทดสอบในสภาพจริง ให้ใช้เซ็นเซอร์ตัวอย่างในอุปกรณ์ของคุณ เพื่อประเมินคุณภาพของภาพในที่แสงน้อย ประสิทธิภาพ HDR และการบริโภคพลังงานภายใต้สภาวะการใช้งานทั่วไป
Recommended Products

Related Search

Get in touch